ตำรวจ สภ.วาปีปทุม จ. มหาสารคาม ปลอมตัวเป็นพระ ดักรวบพ่อค้ายาบ้ากลางวัด ก่อนขยายผลจับกุมได้ 52,427 เม็ด สารภาพเพิ่มรับมาจากลาว 1.2 ล้านเม็ด ปลอมตัวเป็นพระ – เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.อ. สมควร ปริตรวา รองสว. สส. ฯ สภ. วาปีปทุม จ. มหาสารคาม ปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ในวัดปากน้ำ ต.หนองไฮ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เพื่อดักจับกุมยาเสพติด หลังจากสืบทราบมาว่าจะมีการจำหน่ายยาบ้าในพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ. วาปีปทุม วางแผนและซุ่มดูอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
จนกระทั่ง นายสุริโย ผู้ต้องสงสัยที่เพิ่งพ้นโทษยาเสพติดจากเรือนจำ
ขับรถเข้ามาในบริเวณวัดเพื่อนำยาบ้ามาส่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม และยึดของกลางได้ 3,069 เม็ด ก่อนจะสารภาพว่าได้ร่วมมือกับนายศักดิ์ศรี โดยมีนางแอ่วเป็นผู้สั่งการมาจากฝั่งลาว และได้สั่งให้ไปรอรับบริเวณถนนหน้าโรงพยาบาลเขมราฐ จำนวน 200 ลูก (1,200,000 เม็ด) ก่อนจะนำไปส่งตามจุดต่าง ๆ หลายจังหวัดทั่วภาคอีสาน
หลังจากนั้น จึงขยายผลไปตรวจค้นบ้านพักและจับกุมนายศักดิ์ศรี พร้อมกับยึดของกลางเป็นยาบ้าทั้งหมด 52,427 เม็ด รถฮอนด้าJazz สีดำ หมายเลขทะเบียนกฉ 5298 มหาสารคาม รถนิสสัน Almera สีขาว หมายเลขทะเบียน กน 2517 ร้อยเอ็ด โทรศัพท์จำนวน 5 เครื่อง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนจะนำตัวเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป
แพทย์ระบุว่า อาการ ของ ปลาวาฬ ว่าอาการดีขึ้น เตรียมถอดเครื่องช่วยหายใจ ตร.ยืนยันผลตรวจแอลกอฮอล์ยังไม่ออก
เจ้าหน้าที่แพทย์รายงานว่าอาการของนาย วรสิทธิ์ อิสสระ หรือ ปลาวาฬ อายุ 40 ปี ผู้บริหารโรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต ที่ประสบอุบัติเหตุรถชนจนได้รับบาดเจ็บนั้น อาการดีขึ้นพอควร เรียกว่ามีการตอบสนองได้บ้าง เริ่มให้อาหารทางสายยาง ยังไม่มีอาการแทรกซ้อน ซึ่งแพทย์อยู่ระหว่างการพิจารณาวางแผนเรื่องการถอดท่อช่วยหายใจต่อไป
ขณะนี้ยังไม่มีรายงานถึงผลตรวจเลือดเพื่อหาระดับแอลกอฮอล์ขณะนี้ยังไม่มีออกมา โดยประเด็นดังกล่าว พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.วิชิต ระบุว่า ค่อยว่ากันภายหลัง เนื่องจากคำนึงถึงความปลอดภัยกับผู้บาดเจ็บเป็นอันดับแรก และเราปฏิบัติเช่นนี้กับทุกๆ คนนั้น
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา รถเก๋งซูบารุ สปอร์ตของนายวรสิทธิ์ เสียหลักชนเสาไฟส่องสว่างข้างทางใกล้กับโรงเรียนบ้านอ่าวน้ำบ่อ ถ.ศักดิเดช ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างนำร่างออกจากตัวรถส่งรักษาตัวที่ รพ.วชิระภูเก็ต เนื่องจากผู้ได้รับบาดเจ็บมีอาการสาหัส ไม่ได้สติ
ตร. ฝากขัง ‘ลุงพล’ ท่ามกลางแฟนคลับให้กำลังใจ
ตำรวจได้นำตัว ลุงพล ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีน้องชมพู่ ฝากขัง ศาล ท่ามกลางแฟนคลับที่มารอให้กำลังใจ ลุงพล พร้อมตะโกนให้ “ลุงพลสู้ๆ” เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร ได้นำตัว ลุงพล หรือ ไชย์พล วิภา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมุกดาหาร คดีฆาตกรรมน้องชมพู่ ฝากขังศาลจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งขณะที่กำลังเตรียมนำตัวลุงพลขึ้นรถ สำนักข่าว ข่าวสด ได้บรรยายว่าแฟนคลับลุงพลได้มาร่วมให้กำลังใจลุงพลด้วย
โดยแฟนคลับ ได้ตะโกนว่า “ลุงพลสู้ๆ” ซึ่งทางนายไชย์พลจึงได้ชูสองนิ้วให้และพยักหน้า ก่อนที่จะขึ้นรถไป โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้ตั้งข้อหาลุงพล สามข้อหาด้วยกัน ได้แก่ พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
ผบ.ตร. ตั้งโต๊ะ แถลงออกหมายจับลุงพล เปิด 3 ประเด็นข้อหาหลัก ยึดตามพยานหลักฐาน ซ่อนเร้นอำพรางศพ น้องชมพู่
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ตั้งโต๊ะแถลงออกหมายจับลุงพล นายไชย์พล วิภา ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู เด็กหญิงอายุ 3 ขวบ เลขหมายจับที่ 53/2564 ลงวันที่ 1 มิ.ย.2564 ใน 3 ข้อหา ได้แก่
1.พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยปราศจากเหตุอันควร
2. ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย
3. กระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป โดยศาลจังหวัดมุกดาหารออกหมายจับให้เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร